ทีมชาติสเปนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโร 2024 ได้เป็นทีมแรก หลังยิงแซงชนะทีมชาติฝรั่งเศส 2-1

The Spanish national team is the first team to reach the Euro 2024 finals. After shooting to overtake the French national team 2-1

ในเกมรอบตัดเชือกนี้ สเปนมีการปรับหลายตำแหน่งเนื่องจากมีผู้เล่นติดโทษแบนและบาดเจ็บ ส่วนฝรั่งเศสดร็อป อองตวน กรีซมันน์ เป็นสำรอง

เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที สเปนได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ ลามีน ยามาล เช็คโปรแกรมบอลพรีเมียร์ลีกล่าสุด โปรแกรมบอลพรีเมียร์ลีก เปิดบอลจากฝั่งขวาให้ ฟาเบียน รูอีซ ได้โหม่งแต่กดบอลไม่ลง ข้ามคานออกไป

ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 9 เมื่อ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษให้ ร็องดาล โกโล มูอานี่ โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย

เกมหยุดลงชั่วคราวเมื่อ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้รับบาดเจ็บและต้องปฐมพยาบาล แต่กลับมาลุยกันต่อได้

สเปนตามตีเสมอ 1-1 ในนาที 21 เมื่อ ลามีน ยามาล ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะปั่นด้วยซ้าย บอลลอยโค้งชนเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ไมค์ เมนญ็อง หมดสิทธิ์เซฟ

ถัดมาอีก 4 นาที สเปนพลิกนำ 2-1 จากการที่แนวรับฝรั่งเศสเคลียร์บอลไม่ขาด ดานี่ โอลโม่ จับบอลแล้วกระดกหนี โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ก่อนยิงด้วยขวา บอลโดน ฌูลส์ กุนเด้ เข้าประตูตัวเอง แม้ว่าทิศทางลูกบอลจะเข้ากรอบแต่แรก จึงเป็นการยืนยันว่าเป็นประตูของ โอลโม่

นาที 36 สเปนมีลุ้นอีกครั้งจากการที่ ลามีน ยามาล จ่ายบอลให้ ฟาเบียน รูอีซ ยิงแต่ถูก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ บล็อกได้ทัน

ครึ่งหลัง ฝรั่งเศสลุยใส่ทันทีและมีลุ้นในนาที 53 เมื่อ อุสมาน เดมเบเล่ เปิดบอลให้ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ โหม่งแต่ไม่ผ่านมือ อูไน ซีม่อน

นาที 56 คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนยิงมุมแคบ แต่ก็ไม่ผ่าน ซีม่อน อีกครั้ง

ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ปรับทัพในนาที 63 โดยส่ง เอดูอาร์โด กามาวิงก้า, อองตวน กรีซมันน์ และ บราดเล่ย์ บาร์โกล่า ลงสนามแทน อาเดรียง ราบิโอต์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ร็องดาล โกโล มูอานี่

นาที 76 ฝรั่งเศสมีโอกาสเมื่อกองหลังสเปนเคลียร์บอลไม่ขาด กามาวิงก้า จ่ายให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ ยิงข้ามคานไป

นาที 81 สเปนมีโอกาสจากการยิงของผู้เล่นที่ลากตัดเข้ากลางแล้วยิง บอลเฉียดคานออกไป

นาที 86 ฝรั่งเศสมีโอกาสอีกครั้งเมื่อ เอ็มบั๊ปเป้ ลุยเข้าเขตโทษก่อนยิง แต่บอลไม่เข้ากรอบ

ท้ายเกม ฝรั่งเศสไม่สามารถตีเสมอได้ จบเกม สเปนชนะ 2-1 และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ รอพบผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ กับ เนเธอร์แลนด์ ที่จะลงสนามในวันพุธนี้ ส่วนนัดชิงฯ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม